ควรเลือกหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ดีว่ากัน และเลือกอย่างไรให้โดนใจ

[ิิbenz_zaza]

                 การมีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าติดบ้านนั้น ช่วยให้ชีวิตที่เร่งรีบกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย แค่ใส่ข้าว ใส่น้ำ กดหุง แล้วรอเวลาประมาณ 20 นาที ก็ได้ข้าวที่หอมนุ่มน่ากินแล้ว และไม่ว่าใครในครอบครัวก็สามารถที่จะใช้หุงข้าวสวยร้อน ๆ ทานด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำให้หลายคนต้องปวดหัวไม่ใช่วิธีการใช้งาน กลับเป็นการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวว่าแบบไหนขนาดเล็กหรือใหญ่ จึงจะมีความเหมาะสมกับการใช้งานในบ้านของตัวเอง ถ้าหากใครกำลังมีปัญหากวนใจว่าจะเลือกหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่แบบไหนถึงจะเหมาะที่สุด บทความนี้พร้อมมีคำตอบให้ค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย

               เลือกซื้อหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก และใหญ่อย่างไรให้โดนใจ ได้ของดีไปใช้

1.ปริมาณความจุ   เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อเลยก็ว่าได้ เพราะหากเป็นครอบครัวที่อยู่กันหลายคน แล้วซื้อขนาดความจุที่เล็กเกินไป อาจจะต้องหุงถึง 2 ครั้ง ทำให้สิ้นเปลืองเวลา หรือหากครอบครัวเล็กอยู่กัน 1-2 คน ขนาดความจุที่ใหญ่เกินไป ก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย แถมยังเปลืองไฟโดยใช่เหตุ

2. ประเภทหม้อหุงข้าว หากเราอยู่คนเดียว หรือทำงานอยู่บ้านไม่ได้เร่งรีบอะไร แบบดิจิตอลก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่หากต้องใช้งานหุงข้าวหลากหลายชนิด ทำข้าวต้ม หรือทำแกงจืดด้วย หม้อหุงข้าว ดิจิตอลก็จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

3. วัสดุภายนอกและภายใน หม้อหุงข้าวแยกออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ หม้อชั้นนอกและหม้อชั้นใน สำหรับหม้อชั้นนอกนั้นควรเลือกดูยี่ห้อที่ใช้วัสดุประกอบที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรง และทนความร้อนได้ดี หม้อชั้นในจะมีแบบเคลือบเทฟลอนให้เลือกใช้ จะช่วยในการป้องกันข้าวติดก้นหม้อได้ดีกว่า และหม้อไม่มีการบุบยุบ หรือมีรอยขีดข่วน จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า

4. ขนาดกำลังไฟ หม้อหุงข้าวเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานความร้อน มีอัตราการกินไฟที่ค่อนข้างสูง และหากต้องใช้งานเป็นประจำ นอกจากเราจะดูที่ปริมาณความจุและประเภทแล้ว เราควรดูที่กำลังไฟของแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อด้วย ควรเลือกแบบที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เราได้ใช้งานจริง ๆ อย่างน้อย ในปีหนึ่ง ๆ ก็ช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

5. ฟังก์ชันพิเศษ   โปรแกรมพิเศษต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นหม้อหุงข้าว ดิจิตอลเราก็ควรต้องพิจารณาดูว่า ซื้อมาแล้วเราได้ใช้งานจริง ๆ หรือเปล่า เช่น ต้องตั้งเวลาหุงล่วงหน้าไหม หุงข้าวกล้องข้าวเหนียวด้วยไหม ทำอาหารประเภทตุ๋นด้วยมั้ย เพราะยิ่งเพิ่มฟังก์ชันที่หลากหลาย ก็แน่นอนว่าราคาจะต้องเพิ่มตามไปด้วยนั่นเอง

            เรื่องสุดท้ายแต่สำคัญสุดค่ะ คือไม่ว่าเลือกซื้อหม้อหุงข้าวขนาดเล็กหรือใหญ่ เรื่องของคุณภาพสินค้ามาตรฐาน และการรับประกัน หากการใช้งานที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นบริการหลังการขายก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน รวมไปถึงการมีใบรับประกันสินค้า เพราะปัจจุบันมีรุ่นใหม่ ๆ ผลิตออกมามากมาย การเลือกซื้อจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักก็จะช่วยให้เราสบายใจได้มากกว่ายี่ห้อใหม่ ๆ เพราะหากเกิดปัญหาในการใช้งานขึ้นมาจริง ๆ ต้องมีศูนย์ที่มีอะไหล่พร้อมซ่อมแซมค่ะ

#หม้อหุงข้าวขนาดเล็ก