ปลาทู เป็นปลาที่นิยมนำมาประกอบอาหาร มีมากที่สุดในประเทศไทย มีราคาถูกแถมรสชาติอร่อย ใครๆก็คงจะเคยกินปลาทูใช่ไหมคะ เมนูหลักก็คือ น้ำพริกปลาทู ปลาทูต้มเค็ม ฉู่ฉี่ปลาทู เป็นต้น ปลาทู 1 ตัว มีพลังงาน 136 กิโลแคลอรี โปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 ไนอะซิน ไอโอดีน คอเลสเตอรอล ไขมัน กรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดโอเลอิก กรดไลโนเลอิก EPA DHA
และในเนื้อปลาทู 100 กรัม ยังมีสารโอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งปกติในหนึ่งวันร่างกายต้องการโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 3 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ในปลาทูจะมีกรดที่เรียกว่า ลิโนเลอิกซึ่งเป็นกรดจำเป็นต่อร่างกายและได้จากการบริโภคเท่านั้น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ โดยกรดลิโนเลอิกนี้มีบทบาทสำคัญช่วยพัฒนาสมองและเสริมสร้างการทำงานของระบบสืบพันธุ์ อีกทั้งยังช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้ได้รับสารอาหารมากขึ้น โอ้โหประโยชน์เยอะมากยังไม่หมดเท่านี้นะคะไปดูประโยชน์ของปลาทูกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของปลาทู
1.โปรตีนสูง ปลาทูเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน ในเนื้อปลาทูยังมีปริมาณค่อนข้างสูงโดยปลาทู 100 กรัมมีโปรตีนอยู่ปลาทูถึง 24.9 กรัม ซึ่งโปรตีนในเนื้อปลาย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักในการย่อยโปรตีนจากปลาเท่าการย่อยโปรตีนจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว อีกทั้งโปรตีน ร่างกายก็จะได้รับโปรตีนจากปลาทูไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายอีกด้วย
2.บำรุงประสาทและสมอง ในปลาทูมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ค่อนข้างมาก ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้ร่างกายเราไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงเท่านั้น เช่น ปลาทู และนอกจากไอโอดีนและโอเมก้า 3 แล้ว ปลาทูยังมีกรดไขมัน DHA ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะสมองในส่วนการเรียนรู้และจดจำ
3.ร่างกายได้รับวิตามินที่หลากหลาย ปลาทูปริมาณ 100 กรัม ให้แร่ธาตุ วิตามิน และคุณค่าทางสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายชนิด ทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 บี 2 กรดไขมัน ไนอะซิน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการทำงานของร่างกาย ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองให้ควบคุมการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
4.บำรุงกระดูกและฟัน ปลาทูมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส โดยสารอาหารเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยผู้สูงอายุ
5.ช่วยลดไขมันตัวร้ายในเลือด ปลาทูมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และมีกรดไขมัน EPA ซึ่งเป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดและลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ ป้องกันภาวะไขมันอุดตันเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ และเส้นเลือดในสมองแตกได้
6.ป้องกันโรคซึมเศร้า โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง และการขาดกรดไขมันชนิดนี้ อาจเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าและโรคสมาธิสั้นได้ โดยเฉพาะในเด็กวัยกำลังเรียนรู้ หากขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 อาจมีพัฒนาการด้านการอ่านและเขียนค่อนข้างช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน ที่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
วิธีเลือกซื้อปลาทู
•ปลาทูสดลูกตาจะนูนตาดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวจะมีสีเขียวเป็นพื้น ส่วนท้องจะมีสีขาว หรือสีเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวมีเมือกลื่นๆ
•เหงือกมีสีแดงออกชมพู
•ปลาไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น เมื่อใช้นิ้วกดที่กลางลำตัวแล้วปล่อยนิ้วออก รอยบุบจะกลับคืนสภาพเดิมได้หมดหรือเกือบหมด
•ปลาทูที่ไม่สดลูกตาจะยุบ ตาดำจะขุ่น บริเวณลูกตาอาจมีเลือดคลั่ง สีของลำตัวซีด ปลามีกลิ่นคาวมาก ลำตัวอ่อนเหลว และไม่มีเมือกจับ
Vegus168 vegus168