โพสฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี ตลาดขายสินค้า ขายสินค้าฟรี โปรโมทสินค้า โปรโมทเว็บไซต์ ฝากลิงค์

หมวดหมู่ประกาศ => ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง => ข้อความที่เริ่มโดย: kaigubigmak ที่ 22 เมษายน 2019, 02:54:36 PM

หัวข้อ: เซฟเจ้าตูบให้ไกลจากภัยอากาศร้อน
เริ่มหัวข้อโดย: kaigubigmak ที่ 22 เมษายน 2019, 02:54:36 PM
(https://www.bpicc.com/images/2019/04/22/z1_10.jpg)

อากาศร้อนไม่เพียงแต่จะสร้างความทรมานให้คนเท่านั้น สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน มาดูวิธีป้องกันและดูแลสุนัขหน้าร้อนกันค่ะ
อากาศร้อนของเมืองไทยนี่มันช่างร้อนและทรมานจริง ๆ ขนาดตัวเราเองยังร้อนจนต้องอาบน้ำวันละหลายรอบ แล้วเจ้าตูบที่มีขนปกคลุมทั้งตัวจะทรมานขนาดไหน ?
แล้วไม่ใช่แค่แสงแดดอันเจิดจ้าและอากาศอบอ้าวที่เจ้าตูบจะต้องเผชิญ แต่ยังมีโรคอันตรายมากมายที่มาพร้อมกับความร้อนที่สามารถทำให้เจ้าตูบช็อกจนเสียชีวิตได้
วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอนำวิธีดูแลสุนัขในช่วงหน้าร้อน รวมถึงโรคสุนัขที่ต้องระวังในหน้าร้อนมาบอกให้รู้
จะได้นำไปใช้ดูแลเจ้าตูบได้ถูกวิธีเพื่อเตรียมรับมือกับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้

วิธีดูแลสุนัขหน้าร้อน

โรคที่มาพร้อมกับอากาศร้อน 

1. ฮีตสโตรก
(https://www.bpicc.com/images/2019/04/22/dreamstime_xl_23266147-custom.jpg)

          โรคฮีตสโตรก หรือ โรคลมแดด เป็นอาการที่อุณหภูมิร่างกายของสุนัขสูงผิดปกติ มักจะเกิดตอนที่สุนัขออกกำลังกาย วิ่งเล่นกลางแดด
ช่วงกลางวันที่มีอุณหภูมิสูง หรือถูกปล่อยไว้ในรถนาน ๆ ฉะนั้นหากพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เจ้าของควรดูแลอย่างใกล้ชิด

2. ผิวหนังไหม้แดด

          ผิวของสุนัขก็สามารถโดนแดดเผาได้เหมือนกันกับคน โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนสีขาวและบาง ซึ่งโรคนี้มักจะทำให้เกิดอาการคัน
ผิวหนังลอก ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการทาครีมกันแดดสำหรับเด็กหรือสุนัขโดยเฉพาะ โดยทาบริเวณหาง หู จมูก และหลัง

3. เท้าไหม้

          ทางเดิน ถนน หาดทราย สามารถแผดเผาเท้าของเจ้าตูบให้ไหม้ได้ ถ้าจะพาพวกมันไปเดินเล่นควรพาไปตอนเช้าหรือตอนเย็นที่มีแดดอ่อน ๆ
หลีกเลี่ยงช่วงที่มีแดดจัด นอกจากนี้ก่อนที่จะพาออกไปข้างนอกควรจะวัดอุณหภูมิเสียก่อน โดยใช้มือวางลงบนพื้นถนนหรือทางเดิน 30 วินาที
ถ้าแสบมือแสดงว่ายังพาออกไปไม่ได้ ควรรอให้อากาศเย็นกว่านี้อีกหน่อย

4. ภาวะร่างกายขาดน้ำ
(https://www.bpicc.com/images/2019/04/22/2fee9063a9b00e6a3096e040cb620392.jpg)

          เมื่อมีอุณหภูมิร่างกายสูง สุนัขจะระบายความร้อนด้วยการหอบหายใจ และนั่นก็อาจจะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำได้
ซึ่งสังเกตอาการได้จากจมูกและเหงือกจะแห้ง กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีวิธีป้องกันก็คือนำน้ำใส่ถ้วยวางไว้บริเวณที่สุนัขสามารถกินได้สะดวก
ส่วนการให้อาหารเหลวแทนอาหารเม็ดก็ช่วยได้เช่นกัน

5. แมลงและเห็บหมัด

          ช่วงหน้าร้อนจำนวนของเห็บ หมัด ยุงและแมลงต่าง ๆ จะพุ่งสูงเป็นพิเศษ
สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดสเปรย์กันแมลง รวมถึงการรักษาความสะอาดและอาบน้ำให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ

6. โรคภูมิแพ้

          หมัด เชื้อรา เกสรดอกไม้ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ มักจะมากับอากาศร้อน โรคภูมิแพ้จะทำให้สุนัขเกิดอาการคันตามผิวหนังอย่างรุนแรง
ทั้งยังมีอาการไอ จาม และรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงด้วยการไม่พาพวกมันเข้าใกล้พื้นที่ที่มีโอกาสได้รับเชื้อเหล่านี้

(https://www.bpicc.com/images/2019/04/22/dog-in-bath-tub-fb-800x50079c548db0bb695cb.jpg)

 วิธีดูแลสุนัขหน้าร้อน

วิธีป้องกันและดูแล 

        1. ห้ามปล่อยสุนัขไว้ในรถตามลำพัง ถึงแม้ว่าจะเปิดกระจกไว้ก็ตาม เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะฮีตสโตรกได้
       
        2. นำน้ำใส่ชามหรือถ้วยเอาไว้ให้เจ้าตูบ ตั้งไว้ในร่ม หมั่นคอยเติมน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาด ที่สำคัญต้องเป็นน้ำที่สะอาดและเย็น

        3. สุนัขที่มีอายุเยอะจะอ่อนไหวและเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มากับอากาศร้อนเป็นพิเศษ
            จึงควรระมัดระวังและคอยสังเกตอาการของสุนัขอยู่เสมอ
 
        4. ทำสระน้ำให้แช่น้ำเล่น โดยนำน้ำใส่สระยางพลาสติก ระดับน้ำไม่ต้องสูงสัก 2-3 นิ้วก็พอ
            นำไปไว้ในที่ร่มพร้อมเติมน้ำแข็งก้อนทำให้น้ำเย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกายของสุนัขให้ลดลง

        5. ถ้าเจ้าตูบไม่สามารถอยู่ในห้องแอร์ได้ให้เปิดพัดลมแทน

        6. พาไปออกกำลังกายในตอนเช้าและตอนเย็นที่อากาศไม่ร้อนเท่านั้น

        7. ไม่ควรตัดขนสุนัขในหน้าร้อน เพราะขนของสุนัขจะช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ
ถ้าตัดหรือโกนจนสั้นผิวหนังของสุนัขจะโดนแดดเผาได้ง่ายขึ้น

          ถึงแม้เจ้าตูบจะมีกลไกรักษาอุณหภูมิร่างกาย แต่ในบางกรณีแล้วเจ้าตูบก็ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และเมื่อเกิดโรคหรือภาวะที่เป็นอันตราย
พวกมันก็ไม่สามารถบอกเราได้อีกเช่นกัน ฉะนั้นเราซึ่งเป็นเจ้าของจึงต้องคอยสังเกตอาการ ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรทำการรักษาเบื้องต้นและพาไป
หาสัตวแพทย์ทันที


ขอบคุณ ข้อมูลดีๆจาก
เวกัส168 (https://www.vegus666.com/about.html)
siamsportnews.net (http://www.siamsportnews.net/)