ชวนวางแผนก่อนเกษียณแบบรอบด้าน กับ 5 ขั้นตอนง่ายๆ

[unyana_mah]

การก้าวเข้าสู่วัยเกษียณเป็นอีกหนึ่งช่วงที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เพราะ บทบาททางสังคมและครอบครัวลดลง การดำเนินชีวิตประจำวัน หน้าที่การงานรวมทั้งการเงิน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณรายได้หลักจากการทำงานจะหายไป แต่ค่าใช้จ่ายในหลายๆ ส่วนก็ยังคงอยู่เช่นค่ารักษาพยาบาล ค่ากิน ค่าใช้ แล้วจะทำอย่างไรดีเพื่อให้เรามีเงินใช้ในตอนเกษียณมาแนะนำกัน

แนะนำ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการวางแผนเกษียณฉบับมนุษย์เงินเดือน

ประเมินอายุการทำงานและอายุขัย
ก่อนอื่นเราต้องเริ่มต้นจากการคำนวณระยะเวลาเพื่อตั้งเป้าหมาย
คาดว่าจะเกษียณตอนอายุเท่าไร เพื่อจะได้คิดคำนวณระยะเวลาการทำงานที่เหลืออยู่                         
คาดว่าจะมีอายุขัยจนถึงกี่ปี ซึ่งการกำหนดอายุขัยนั้นสามารถประมาณการได้จากอายุ สุขภาพ ประวัติโรคภัยไข้เจ็บของคนในครอบครัว และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง เช่น นาย A อายุ 30 ปี ตั้งเป้าหมายเกษียณตอนอายุ 55 ปี สมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่อายุยืน ตัวนาย A สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว คาดว่าน่าจะมีอายุขัยประมาณ 85 ปี ดังนั้น นาย A จะมีเวลาทำงานก่อนเกษียณอีก 25 ปี จึงต้องวางแผนด้านการเงินให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณให้ได้ถึง 30 ปี

ประมาณการค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
หลักจากนั้นให้คำนวณค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณโดยพิจารณาจากภาระผูกพันต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายด้านความบันเทิงและการท่องเที่ยว รวมทั้งค่าใช้จ่ายจิปาถะ ซึ่งสามารถอ้างอิงได้จากค่าใช้จ่ายและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน เมื่อได้ตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อเดือนหรือต่อปีจนสิ้นอายุขัยแล้ว ควรนำมาคำนวณอัตราเงินเฟ้อเพิ่มอีกประมาณ 3% จะได้เป็นมูลค่าเงินในอนาคตเมื่อเกษียณอายุ

ตรวจสอบเงินออม
หลักจากนั้นเรามาดูกันว่าเรามีเงินออมเท่าไหร่ เช่น เงินในบัญชีเงินฝาก เงินจากกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสะสมทรัพย์ เงินลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมต่าง ๆ จากนั้นคำนวณดูว่ายังขาดเงินออมอีกเท่าไร เพื่อเราจะไปให้ถึงการเกษียณที่แฮปปี้
สร้างเงินออมและวางแผนลงทุนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
เมื่อทราบจำนวนเงินออมที่ยังขาดแล้ว นำตัวเลขนั้นมาใช้เป็นเป้าหมายใน การวางแผนเกษียณอายุ โดยเริ่มจากการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บออมมากขึ้นในแต่ละเดือน จากนั้นวางแผนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ โดยเลือกให้เหมาะกับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ เช่น

การลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นสามัญ กองทุนรวมหุ้น ลงทุนกองทุนรวม ลงทุนทองคำ กองทุนรวมน้ำมัน     
การลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงปานกลาง เช่น ตราสารหนี้ภาคเอกชน กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน   หรืลงทุนแบบ DR คือการลงทุนแบบผสมผสาน                                                                     
การลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาลผ่านกรุงไทย พันธบัตรออมทรัพย์ กรุงไทย  ตราสารหนี้ภาครัฐ กองทุนรวมตลาดเงิน เป็นต้น
หากอยู่ในวัยเริ่มต้นทำงาน มีระยะเวลาในการลงทุนนาน และรับความเสี่ยงได้สูง ควรเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ยิ่งวางแผนลงทุนเร็วตั้งแต่อายุยังน้อยยิ่งได้เปรียบเนื่องจากใช้เงินลงทุนต่อเดือนน้อยจึงเหมาะกับการ วางแผนเกษียณฉบับมนุษย์เงินเดือน มาก 

ติดตาม ตรวจสอบ และทบทวนเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ
เริ่มต้นออมเงินได้ทันทีเมื่อเลือกแผนการลงทุนที่ต้องการได้แล้ว และอย่าลืมหมั่นตรวจสอบแผนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยแต่ละปีควรมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ตลาดของพอร์ตการลงทุน หรือสถานการณ์ของชีวิตที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านรายได้ ค่าใช้จ่าย และอายุเกษียณ
 
การวางแผนเกษียณอายุ เป็นเรื่องสำคัญ แนะนำว่าหากยังไม่แน่ใจว่าควรลงทุนแบบไหน สามารถเข้าไปขอข้อมูลหรือคำแนะนำจากธนาคาร โดยมีทั้งการลงทุนกองทุนต่างๆ รวมถึงการทำประกันสะสมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีช่วยเก็บเงินให้ถึงเป้าหมายได้ ทางธนาคารกรุงไทยพร้อมเป็นคู่คิดทางการเงินเพื่อร่วม วางแผนเกษียณ อายุอย่างมีประสิทธิภาพ ขอรับคำปรึกษาได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือลองอ่านข้อมูลออนไลน์เช่นพันธบัตรออมทรัพย์ ที่
https://krungthai.com/th/corporate/fx-derivatives-and-investment-banking/fx-derivatives/413 หรือพันธบัตรรัฐบาล ที่ https://krungthai.com/th/corporate/fx-derivatives-and-investment-banking/fx-derivatives/413